บริษัท ไบเออร์ไทย จำกัด ร่วมมือกับสมาคมวางแผนครอบครัวแห่งประเทศไทย ในพระราชูปถัมภ์สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี (สวท) เปิดตัว “โครงการ GROWTH (Grow Together Healthier)” เพื่อส่งเสริมการเข้าถึงความรู้ด้านอนามัยการเจริญพันธุ์และการดูแลสุขภาพตัวเองในกลุ่มเกษตรกรไทย สำหรับเกษตรกรรายย่อย 2,500 ราย ใน 10 จังหวัดของประเทศไทย
โครงการ GROWTH (Grow Together Healthier) จัดขึ้นในระหว่างเดือนสิงหาคม 2565 ถึงธันวาคม 2565 ในรูปแบบของการให้ความรู้และข้อมูลเกี่ยวกับอนามัยการเจริญพันธุ์ การวางแผนครอบครัว และการดูแลตนเองโดยผู้เชี่ยวชาญ ตลอดจนนำเสนอแพลตฟอร์มการให้คำปรึกษาออนไลน์สำหรับเกษตรกรรายย่อยที่เข้าร่วมในโครงการนี้

คุณจินอา ลี กรรมการผู้จัดการบริษัท ไบเออร์ไทย จำกัด กล่าวว่า “ความมุ่งมั่นในด้านวิทยาศาสตร์ สังคม และผลประโยชน์ส่วนรวม เป็นสิ่งที่ไบเออร์ยึดมั่นมาอย่างยาวนาน ในปีนี้ บริษัท ไบเออร์ ได้ดำเนินธุรกิจในประเทศไทยครบ 60 ปี เราจึงได้ริเริ่มโครงการ GROWTH โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุน และปรับปรุงสุขภาพและคุณภาพชีวิตของคนในชุมชน และมีส่วนร่วมในการแก้ปัญหาทางสังคม โครงการนี้นับเป็นอีกหนึ่งความมุ่งมั่นของเราเพื่อบรรลุพันธกิจของไบเออร์ที่กำหนดไว้ว่า ทุกคนมีสุขภาพดีและไม่ขาดแคลนอาหาร (Health for all Hunger for none)”
“เราเล็งเห็นว่าสถานการณ์การระบาดใหญ่ของโควิด-19 ทำให้ทุกคนตระหนักถึงความสำคัญของการมีสุขภาพดี เราได้เห็นผู้คนหันมาใส่ใจดูแลสุขภาพและเป็นห่วงสุขภาพของผู้อื่นมากขึ้น การระบาดใหญ่ยังทำให้การเข้าถึงบริการด้านสุขภาพลดลงอีกด้วย เนื่องจากความกลัวว่าจะติดเชื้อไวรัส ทำให้หลายคนไม่ได้ไปเข้ารับการตรวจสุขภาพประจำปี ซึ่งรวมถึงส่วนที่เกี่ยวข้องกับการวางแผนครอบครัวด้วย ซึ่งอาจก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อสุขภาพสำหรับหลายๆ คน โดยเฉพาะผู้ที่อาศัยอยู่ในต่างจังหวัด” คุณจินอา กล่าว
บริษัท ไบเออร์ไทย ได้ร่วมมือกับองค์กรไม่แสวงหาผลกำไรอย่าง สมาคมวางแผนครอบครัวแห่งประเทศไทยฯ ซึ่งเป็นผู้บุกเบิกการวางแผนครอบครัว อนามัยการเจริญพันธุ์ในประเทศไทย เพื่อผลักดันการดำเนินโครงการ GROWTH เพื่อเพิ่มการเข้าถึงความรู้ด้านอนามัยการเจริญพันธุ์ การวางแผนครอบครัว และความรู้ในการดูแลตัวเองให้แก่เกษตรกรรายย่อย เพื่อแก้ไขต้นเหตุของปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้น เพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงด้านสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีอย่างยั่งยืน
รศ.ดร. ฤๅเดช เกิดวิชัย นายกสมาคมวางแผนครอบครัวแห่งประเทศไทยฯ (สวท) กล่าวว่า การศึกษาและความรู้เป็นกุญแจสำคัญในการแก้ไขปัญหาที่ต้นเหตุ พันธกิจของสมาคมฯ คือเพิ่มการเข้าถึงความรู้ด้านอนามัยการเจริญพันธุ์และการวางแผนครอบครัวให้แก่กลุ่มประชากรเป้าหมาย เพื่อให้ประชากรสามารถดูแลอนามัยการเจริญพันธุ์ของตนเองได้อย่างเหมาะสม มีข้อมูลที่ช่วยในการตัดสินใจป้องกันการตั้งครรภ์โดยไม่ได้วางแผน ตลอดจนเข้าถึงบริการด้านอนามัยการเจริญพันธุ์ได้อย่างเหมาะสม อุตสาหกรรมเกษตรเป็นหนึ่งในภาคเศรษฐกิจที่สำคัญของประเทศไทย เกษตรกรในประเทศไทยมีจำนวน 8.09 ล้านครัวเรือน(ข้อมูลปี 2563) มากกว่าร้อยละ 50 ประสบปัญหาขาดความรู้ที่เหมาะสมด้านอนามัยการเจริญพันธุ์ โดยเฉพาะการวางแผนครอบครัวและวิธีการดูแลตัวเองให้มีสุขภาพดี อันเนื่องมาจากขาดการเข้าถึงทรัพยากรและบริการทางการแพทย์ เนื่องจากเวลาว่างของเกษตรกรไม่สอดคล้องกับเวลาทำการของสถานพยาบาลในพื้นที่ของตน นอกจากนี้ เศรษฐกิจในภาคครัวเรือนของเกษตรกรไทย ค่อนข้างต่ำ และเกษตรกรส่วนใหญ่ให้ความสำคัญกับการหารายได้มากกว่าสุขภาพของตนเอง ซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงต่อคุณภาพชีวิต
“ความร่วมมือของเราในโครงการนี้จะช่วยเพิ่มการเข้าถึงความรู้ด้านอนามัยการเจริญพันธุ์ การวางแผนครอบครัว และการดูแลตนเอง เพื่อให้เกษตรกรได้รับข้อมูลที่ถูกต้องในการตัดสินใจเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของพวกเขา” รศ.ดร.ฤาเดช กล่าว